Happy Asian woman

ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษมาจากความรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษ

บทความนี้เป็นตอนที่ 2 เกี่ยวกับภาษาอังกฤษธุรกิจซึ่งใช้กริยา “to see”

*หมายเหตุ #1: บทความนี้อ้างถึงสิ่งที่เรียกว่า "multi-words" ซึ่งเป็นคำศัพท์ของ ECSC ที่หมายถึง คำศัพท์ที่ประกอบด้วยคำมากกว่าหนึ่งคำ *หมายเหตุ #2: บทความนี้ถูกแปลจากภาษาอังกฤษโดยใช้โปรแกรม AI ความคิดเห็นของคุณเป็นสิ่งที่ยินดีในส่วนความคิดเห็นด้านล่างค่ะ

*ข้อความจากบรรณาธิการ: บทความนี้มีการอ้างถึงคำว่า “multi-words” ซึ่งเป็นคำที่ ECSC บัญญัติขึ้นสำหรับใช้เรียกคำศัพท์ที่ประกอบด้วยคำมากกว่าหนึ่งคำ

ในการสื่อสารภาษาอังกฤษในบริบทธุรกิจนั้น คุณอาจจะเคยได้ยินชาวต่างชาติพูดเป็นวลีภาษาอังกฤษสั้น ๆ ด้วยกริยา “to see” มาก่อน แต่อาจจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับความหมาย
บทความนี้เป็นตอนที่ 2 ของชุดบทความที่เราอภิปรายถึงการใช้กริยา “to see” เป็นภาษาอังกฤษในลักษณะที่แตกต่างกัน (คลิกที่นี่ เพื่ออ่านตอนที่ 1)

I see

การใช้กริยา “see” แบบหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในการสื่อสารภาษาอังกฤษ คือ การใช้วลี “I see” ซึ่งการกล่าวแบบนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความเชื่อของเราเลย!
กลับกัน วลีนี้ใช้เพื่อแสดงให้คนอื่นทราบว่าคุณเข้าใจในสิ่งที่เขาบอก ในกรณีนี้ “I see” ถูกใช้โดยลำพัง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประโยคที่ยาวกว่านี้ และสามารถใช้ได้ทั้งในแง่ลบและแง่บวก
ตัวอย่างเช่น หากเพื่อนร่วมงานแจ้งว่า “The boss said everyone has to work overtime today” (หัวหน้าแจ้งว่าวันนี้ทุกคนต้องทำงานล่วงเวลา) คุณสามารถตอบกลับไปได้ว่า “I see!” ด้วยเสียงต่ำ เพื่อแสดงให้เพื่อนร่วมงานทราบว่าคุณเข้าใจ แม้คุณจะไม่ได้มีความสุขกับข้อมูลนี้ก็ตาม (เชิงลบ)
อีกตัวอย่าง คือ เมื่อเพื่อนร่วมงานแจ้งว่าเขาเพิ่งทำยอดขายได้มาก คุณอาจตอบกลับด้วยการกล่าวว่า “I see!” ด้วยเสียงสูง เพราะเป็นข้อมูลที่รับฟังแล้วรู้สึกมีความสุข (เชิงบวก)
การใช้ภาษาอังกฤษในลักษณะนี้จะเน้นที่ คำศัพท์สำคัญกว่าไวยากรณ์ ซึ่งจะอยู่ในรายวิชาเกี่ยวกับการฝึกภาษาอังกฤษธุรกิจที่ ECSC นอกจากนี้คุณจะได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษโดยเรียนรู้ความหมายของวลี วิธีออกเสียง และโอกาสในการใช้งาน!

You see?

อีกวลีที่มีคำว่า “see” ที่คุณอาจจะได้ยินจากการใช้ภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจในที่ทำงาน ซึ่งเป็นวลีที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับดวงตาเช่นกัน คือ วลี “You see?”
เงื่อนไขที่ 1 คุณสามารถใช้วลีนี้ได้เมื่ออยากถามเพื่อนร่วมงานว่าเข้าใจสิ่งที่คุณพูดหรือไม่ สมมุติว่า คุณขอลาหยุดกับหัวหน้าเป็นเวลา 1 วันในช่วงสัปดาห์หน้า และหัวหน้าก็ตอบออกมาอย่างไม่ลังเลว่า “no” และคุณก็ไม่ได้ชอบใจกับคำตอบนั้น คุณจึงลองขออีกครั้ง หัวหน้าเลยบอกว่า “Let’s look at the schedule. You see? K. Pla is already off that day, so I need you to work.” (ลองมาดูตารางงานสิ เข้าใจหรือยังทีนี้ คุณปลาลางานแล้วในวันนั้น เพราะฉะนั้นคุณต้องมาทำงาน)
เงื่อนไขที่ 2 คุณสามารถใช้ “You see?” หลังจากที่ตนเองได้แบ่งปันข้อมูลกับใครสักคนแล้ว ตัวอย่างเช่น เมื่อเพื่อนร่วมงานขอให้คุณช่วยทำงานบางอย่าง คุณจึงบอกวิธีลัดไป และในเวลาต่อมาเพื่อนจึงเดินกลับมาหาที่โต๊ะแล้วขอบคุณที่ช่วย คุณอาจจะพูดว่า “You see? It’s actually pretty easy.” (เห็นไหม จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ยาก)

Let's see / Let me see

สองวลีสั้น ๆ นี้มีความหมายเดียวกันในภาษาอังกฤษในบริบทของการทำงาน และสามารถนำไปใช้ได้สองแบบที่แตกต่างกัน
วิธีแรก ใช้เมื่อคุณต้องการเวลาคิดหาคำตอบสักเล็กน้อย หรือพยายามจะนึกถึงอะไรบางอย่าง ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าถามว่า คุณจะอยากนัดประชุมวันไหน คุณอาจจะตอบโดยพูดว่า “Hmmm, let’s see… {check your calendar} …how about Tuesday at 10am?” (อึม ไหนดูซิ… {ดูปฏิทิน} …ถ้าเป็นวันอังคาร 10 โมงเช้าได้หรือเปล่า?)
เราสามารถใช้วลีในลักษณะนี้ มาเป็นช่วงหยุดก่อนพูดต่อจนจบประโยคได้
การใช้งานอีกวิธีหนึ่ง เป็นการใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถามเพราะคุณไม่รู้คำตอบ ตัวอย่างเช่น หากหัวหน้าสอบถามว่าลูกค้าของคุณได้ชำระเงินตามใบแจ้งหนี้แล้วหรือยัง แต่คุณไม่แน่ใจ คุณอาจพูดว่า "Let me see" (ขอดูก่อน) เพื่อแจ้งว่าคุณยังไม่พร้อมตอบคำถามดังกล่าวในขณะนั้น เพราะคุณต้องไปตรวจสอบก่อน
บทความนี้ได้กล่าวถึงการใช้กริยา “to see” อีก 3 รูปแบบในสถานการณ์ทั่วไปในที่ทำงาน ซึ่งเราจะได้พบกับวลีเหล่านี้บ่อยในการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นควรศึกษาวิธีการใช้งานไว้ แล้วทักษะภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจของคุณจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างแน่นอน
และอย่าลืม คลิกที่นี่ เพื่อย้อนไปอ่านตอนที่ 1!
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษ multi-words และศึกษาว่าคำศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้คุณและเพื่อนร่วมงานพูดภาษาอังกฤษอย่างความมั่นใจมากขึ้นได้อย่างไร ติดต่อ ECSC ได้เลยตั้งแต่วันนี้
แชร์โพสต์นี้:
thTH